เรามีกิ่งพันธุ์ คุณภาพดี ที่ผ่านการตรวจสอบ ดี เอ็น เอ มากมาย หลากหลาย ที่สุดในโลก 
   
 
 สถิติวันนี้ 44 คน
 สถิติเมื่อวาน 86 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
291 คน
596 คน
1757493 คน
เริ่มเมื่อ 2011-09-22
 


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
 
 
 

วิธีการขยายพันธุ์ของศูนย์ฯ
 
            ศูนย์ฯได้ทำการขยายพันธุ์ 2 วิธี คือ การเสียบยอดและการทาบกิ่ง
 
การขยายพันธุ์ โดยการเสียบยอด
             การเสียบยอดเป็นวิธีการขยายพันธุ์ มะยงชิด - มะปรางหวานใหญ่ ที่ดีวิธีหนึ่ง ที่จะไม่เกิดการกลายพันธุ์ [Mutation]  ข้อเสีย ก็คือ การเจริญเติบโตในระยะแรกจะช้ามาก ต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะโตสูงกว่า 80 ซ.ม. พอที่จะนำไปขายได้ แต่เมื่อนำไปปลูกลงดินแล้ว จะโตเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 1 -2 ปี ก็สามารถผลิดอกออกผลได้
 
การขยายพันธุ์ โดยการทาบกิ่ง
             วิธีนี้เป็นที่นิยมกันมาก มี ข้อดี ดังนี้
            1. สามารถทาบกิ่งได้หลายขนาด หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกิ่งแขนง กิ่งเล็ก กิ่งใหญ่ กิ่งกระโดง รวมไปถึงกิ่งสาขา (Brance) 
            2. ตั้งราคาขายได้หลายราคา จากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ตามใจของผู้ซื้อ
            3. ให้ผลผลิต (ออกผล) ได้รวดเร็ว ตามขนาดและความสมบูรณ์ของกิ่ง 
            4สามารถเพิ่มมูลค่า [Added value] ได้ง่ายโดยการเสริมราก
            ข้อเสีย
            1. หากตัดกิ่งทาบที่แผลยังติดไม่สนิท จะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย เมื่อโดนลมพัดแผลจะฉีกทำให้กิ่งตายได้ง่าย
            2. การเลือกต้นตอกับกิ่งพันธุ์ดี ต้องให้ได้ขนาดใกล้เคียงหรือสมดุลกัน บางคนใช้กิ่งตอเล็กมากเกินไปเมื่อเทียบกับกิ่งพันธุ์ดีที่ใหญ่มาก เมื่อนำไปปลูกกิ่งตออาจหักได้ง่าย เพราะรับน้ำหนักต้นใหญ่ไม่ไหว อาจจะตายได้ง่าย หรือไม่ตายก็โตช้า
    3. กิ่งพันธุ์ดีมีสภาพไม่เหมาะสม เช่น กิ่งเป็นโรค กิ่งแคระแกร็น กิ่งแก่เกินไป เมื่อนำไปปลูก การพัฒนาลำต้นจะไม่ดี อาจตายง่ายหรือโตช้า
    4. บางคนดึงต้นตอออกจากถุงเพาะชำ ตัดรากแก้วทิ้ง อัดขุยมะพร้าว แล้วนำไปทาบ เมื่อนำไปปลูก ต้นจะเจริญเติบโตช้า หรืออาจตายได้ง่าย
 
 

 
 
 นวัตกรรม[Innovation] การทาบกิ่งของศูนย์ฯ
 
จากการพัฒนา (Development) ของศูนย์ฯ ทำให้ได้ นวัตกรรมการทาบกิ่งโดยใช้กรรมวิธี ดังต่อไปนี้
1.   เลือกต้นตอ ที่สมบูรณ์และกิ่งพันธุ์ดี ให้มีขนาดและอายุ ไล่เลี่ยกัน
2.   กำหนดตำแหน่งของกิ่งพันธุ์ดีที่จะทาบให้ห่างจากจุดที่จะควั่นประมาณ 1 คืบ
3.   ยกต้นตอที่เตรียมไว้ขึ้นทาบ ก้นถุงจะอยู่ใกล้เคียงกับจุด ที่จะควั่นและตัด
4.   มัดถุงของต้นตอกับกิ่งพันธุ์ดีให้แน่น โยงเชือกปอกับโครงสร้างที่แข็งแรง
5.   หลังทาบประมาณ 7 วันหากฝนไม่ตก ให้รดน้ำจนตุ้มของต้นตอเปียกโชก
6.   หลังทาบประมาณ 75-90 วันให้ควั่นกิ่งพันธุ์ดี ตรงจุดที่ได้กำหนดไว้แล้ว
7.  หลังควั่นประมาน 10-30 วันให้ทยอยตัดกิ่งพันธุ์ดี ลำดับตามขนาดของกิ่ง
8.   กรีดตรงรอยตัด 2-3 ทาง ยาวประมาณ 1 นิ้ว แช่ในน้ำยาเร่งราก [Plant Stimulant] ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที จึงนำไปเพาะชำ
9.   นำไปลงถุงหรือกระถาง กระทุ้งดินให้แน่น ส่งเข้าเรือนเพาะชำ
  
จากกรรมวิธี  9 ข้อข้างต้น กิ่งพันธุ์ที่ถูกเพาะชำจะมี 2 ขา คือจากต้นตอและก้านของกิ่งประธาน หรือกิ่งพันธุ์ดี ที่เราตัดให้ยาวประมาณ 1 คืบ กิ่งนี้จะช่วยยึดลำต้นและเมื่อรากฝอยงอกออกมา รากจะช่วยตรึงลำต้นให้แข็งแรงและช่วยหาอาหาร ทำให้ก้านของกิ่งประธานเติบโต ควบคู่ไปกับกิ่งตอ ทำให้ได้กิ่งพันธุ์ดีมี 2 ขารากที่แข็งแรงและสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง วิธีนี้ ศูนย์ฯตั้งชื่อเรียกขานว่า การทาบกิ่งแบบ 1ตอ  2ขาราก (ดูในภาพ)
หากต้องการเสริมตอเข้าไปอีก 1 ต้นก็ทำได้ตามข้อ 3 โดยให้ตอใหม่และแผลอยู่ตรงกันข้ามกับตอแรก ศูนย์ฯเรียกขานการทาบกิ่งวิธีนี้ว่าแบบ 2ตอ 3ขาราก (ดูในภาพ) ศูนย์ฯขอแนะนำว่า วิธีนี้เป็นการเสริมราก ที่ประหยัดแต่มีประสิทธิผลสูงที่สุด [Optimization]
หากต้องการเสริมเพิ่มเป็นแบบ 3ตอ 4ขาราก หรือเท่าไหร่ก็ย่อมสามารถทำได้ แต่อาจต้องเปลี่ยนตำแหน่งของจุดทาบไปตามความเหมาะสม
 


Copyright @ 2007 by  vichitkarnkaset.com  All Rights Reserved .

Service by เว็บสำเร็จรูป